ภาพยนตร์เริ่มมีเข้ามาเมืองไทยเมื่อปี พ.ศ.2466 ผู้นำเข้ามาครั้งแรกคือ นายเอส.จี .มาร์คอฟสกี กับคณะชาวปารีส โดยได้นำเข้ามาครั้งแรกออกฉายที่โรงละครหม่อมเจ้าอลังการ เมื่อวันที่10 มิถุนายน พ.ศ.2440 หลังจากเกิดการฉายภาพยนตร์ในเมืองไทย ก็เกิดกิจการโรงภาพยนตร์ถาวรขึ้นในกรุงเทพฯ โดยมีภาพยนตร์เร่นำภาพยนตร์เข้าฉายรายแล้วรายเล่า เข้ามาฉายในกรุงเทพฯช่วงปีพ.ศ. 2440-2449 พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงสรรพศาสตร์ศุภกิจ ถือได้ว่าเป็นคนไทยคนแรก ที่เล่นกล้องและถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์พระราชกรณียกิจ ปี พ.ศ. 2465
ในสมัยรัชกาลที่ 6 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ทรงเป็นผู้บัญชาการกรมรถไฟแทนฝรั่งชาวเยอรมัน ได้ทรงจัดตั้งศูนย์ผลิตภาพยนตร์ อย่างเป็นทางการของกรมรถไฟหลวง เรียกว่า “กองภาพยนตร์เผยแพร่ข่าว” การที่มีกองผลิตภาพยนตร์ในกรมหลวงก็เพื่อสร้างภาพยนตร์ประชาสัมพันธ์ให้ คนไทยและชาวต่างประเทศนิยมท่องเที่ยวโดยใช้บริการของรถไฟ เพราะในขณะนั้นรถไฟเป็นสิ่งใหม่ สร้างภาพยนตร์ขึ้นมาเพื่อให้เห็นสถานที่น่าท่องเที่ยวต่างๆของไทย กรมรถไฟหลวงจึงกลายเป็นโรงเรียนในการสร้างคนที่จะผลิตภาพยนตร์เรื่องของไทยต่อไปในอนาคต
ในปีเดียวกันนั้น พ.ศ.2465 ได้มีกลุ่มนักสร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกันโดย นายเฮนรี่ แมคเรย์ แห่งบริษัทยูนิเวอร์แซล ได้มาถ่ายภาพยนตร์ใน
ประเทศไทยโดยได้รับความช่วยเหลือ จากกรมมหรสพหลวงและกรมรถไฟ
หลวงในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยใช้ดาราไทยแสดงทั้งหมด ซึ่งนับว่าเป็น
หนังเรื่องแรกของเมืองไทย โดยมีนายเฮนรี่ แมคเรย์ กำกับการแสดง นายเดล คลองสัน ถ่ายภาพ นำแสดงโดย ขุนรามภรตศาสตร์ นางสาวเสงี่ยม นาวีเสถียร และหลวงภรตกรรมโกศล ซึ่งถือได้ว่าทั้งสามได้เล่นเป็นพระเอก นางเอกและผู้ร้าย คนแรกของเมืองไทย